หน้าแรก ITA แบบสอบถามความฯ Facebook Admin webmail เว็บไซต์เก่า

ประชาสัมพันธ์ลงทะเบียนผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

เปิดรับลงทะเบียนผู้มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพื่อรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

1. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ดังนี้
(1) มีสัญชาติไทย
(2) ผู้สูงอายุมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
(3) ผู้สูงอายุที่จะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ในปีงบประมาณ 2567 นับจนถึงวันที่ 1 กันยายน 2567 (เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2507) ในกรณีที่ทะเบียนราษฎรไม่ปรากฏวันที่ เดือนเกิด ให้ถือว่าบุคคลนั้นเกิดในวันที่ 1 มกราคมของปีนั้น
(4) มีภูมิลำเนาในเขตพื้นที่แต่ยังไม่ได้ไปลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ได้ย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่ใหม่ในเขตพื้นที่ตำบลกระแสบนก่อนสิ้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปี
(5) ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ ผู้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดให้เป็นประจำ ยกเว้นผู้พิการและผู้ป่วยเอดส์ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2548
(6) กรณีผู้สูงอายุที่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามระเบียบฯ ข้อ 6 (4) การรับลงทะเบียนรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตรวจสอบคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ ณ วันที่มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

2. ขั้นตอนและเอกสารหลักฐานประกอบการยื่นคำขอลงทะเบียนรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ให้ผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้น ซึ่งมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตตำบลกระแสบน ยื่นคำขอลงทะเบียนขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุด้วยตนเองต่อองค์การบริหารส่วนตำบลกระแสบน ช่วงที่ 1 ตั้งแต่ เดือนตุลาคม 2565 – เดือนพฤศจิกายน 2565 ช่วงที่ 2 ตั้งแต่ เดือนมกราคม 2566 – เดือนกันยายน 2566 ในวันและเวลาราชการ ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลกระแสบน พร้อมเอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้
(1) บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง)
(2) ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน (ที่เป็นปัจจุบัน)
(3) สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร (ออมทรัพย์) ในนามผู้มีสิทธิหรือสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร (ออมทรัพย์) ในนามบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจจากผู้มีสิทธิ
ในกรณีมีความจำเป็นผู้สูงอายุไม่สามารถมาลงทะเบียนได้ ผู้สูงอายุอาจมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่นเป็นผู้ยื่นคำขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแทนได้

3. รายละเอียดการได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
ผู้สูงอายุที่มีสิทธิจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในอัตราแบบขั้นบันได ดังนี้
3.1 อายุ 60 – 69 ปี ให้ได้รับคนละ 600 บาท ต่อเดือน
3.2 อายุ 70 – 79 ปี ให้ได้รับคนละ 700 บาท ต่อเดือน
3.3 อายุ 80 – 89 ปี ให้ได้รับคนละ 800 บาท ต่อเดือน
3.4 อายุ 90 ปี ขึ้นไป ให้ได้รับคนละ 1,000 บาท ต่อเดือน
4. กรณีที่ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ที่อื่น ในระหว่างปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ( ตุลาคม 2565 – กันยายน 2566 ) โดยสิทธิในการรับเงินของผู้สูงอายุจะได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุถึงเดือนกันยายน 2566 และเพื่อเป็นการรักษาสิทธิให้ต่อเนื่องในการรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในเดือนตุลาคม 2566 ต่อไป ดังนั้น ผู้สูงอายุจะต้องไปลงทะเบียนยื่นคำขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุก่อนสิ้นปีงบประมาณ หรือภายในกันยายน 2566

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

No comments yet
ความคิดเห็น